Bitget App
เทรดอย่างชาญฉลาดกว่าที่เคย
ซื้อคริปโตตลาดเทรดFuturesCopyBotsEarn

ดูดัชนีความกลัวและความโลภ

share

ดัชนีความกลัวและความโลภของคริปโต (Crypto Fear and Greed Index) เป็นเครื่องมือที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในโลกคริปโทเคอร์เรนซี ช่วยให้นักลงทุนและนักเทรดเข้าใจในสภาวะทางอารมณ์ของตลาด ตัวดัชนีจะเป็นการวิเคราะห์ตัวประกอบต่างๆ แล้วให้คะแนนเป็นตัวเลขระหว่าง 0-100 โดยที่ 0 หมายถึง “กลัวสุดขีด” (Extreme Fear) และ 100 หมายถึง “โลภสุดขีด” (Extreme Greed) ข้อมูลนี้อาจมีความสำคัญเป็นอย่างมากต่อการตัดสินใจลงทุนอย่างมีข้อมูล

ดัชนีความกลัวและความโลภของคริปโตคืออะไร

ดัชนีความกลัวและความโลภของคริปโตจะวัดอารมณ์ความกลัวและความโลภที่ครอบงำในหมู่นักลงทุนคริปโทเคอร์เรนซี อารมณ์เหล่านี้อาจมีอิทธิพลอย่างมากต่อพฤติกรรมของตลาดได้ ซึ่งทำให้ราคาเกิดการเหวี่ยงตัวและมีความผันผวน ตัวดัชนีติดตามอารมณ์ความรู้สึกเหล่านี้ พร้อมมุ่งหวังที่จะให้ข้อมูลเชิงลึกว่าในช่วงนั้นๆ ตลาดมีมูลค่าต่ำเกินไป (Undervalued) หรือมีมูลค่าสูงเกินไป (Overvalued)

เดิมทีดัชนีความกลัวและความโลภของคริปโตได้แรงบันดาลใจจากดัชนีที่คล้ายกันที่สร้างขึ้นสำหรับตลาดหุ้นโดย CNN Money แต่ก็ได้มีการปรับใช้ให้เหมาะสมกับลักษณะเฉพาะของตลาดคริปโทเคอร์เรนซี ซึ่งช่วยให้นักลงทุนมองหาโอกาสในการซื้อที่อาจเกิดขึ้นเมื่อตลาดถูกขับเคลื่อนด้วยความกลัว และสัญญาณที่เตือนให้ระมัดระวังเมื่อตลาดร้อนแรงเกินไปและขับเคลื่อนด้วยความโลภ

ดัชนีความกลัวและความโลภของคริปโตทำงานอย่างไร

ดัชนีความกลัวและความโลภของคริปโตทำงานโดยการรวบรวมข้อมูลจากหลายแหล่งเพื่อหาระดับความเชื่อมั่น ณ ช่วงเวลานั้นๆ ในตลาดคริปโทเคอร์เรนซี ใช้ตัวชี้วัดหลายตัวร่วมกันเพื่อประเมินว่านักลงทุนรู้สึกกลัวหรือโลภ จากนั้นข้อมูลที่รวบรวมมานี้จะแปลงไปเป็นคะแนนตัวเลขที่สามารถช่วยให้นักลงทุนประเมินสภาวะทางอารมณ์ของตลาดได้

ดัชนีมีการอัปเดตทุกวันเพื่อให้สะท้อนถึงสภาวะตลาดล่าสุดอยู่ตลอด วิธีการเช่นนี้ทำให้ได้ภาพสแนปช็อตความเชื่อมั่นของตลาดในแบบเรียลไทม์ ช่วยให้นักลงทุนสามารถปรับกลยุทธ์ให้เหมาะสมได้ เช่น คะแนนที่ต่ำหมายถึงความกลัวสุดขีด ซึ่งอาจบ่งชี้ว่าตลาดอยู่ในสภาวะ Oversold (มีแรงขายมากเกินไป) และมีโอกาสซื้อเกิดขึ้น ในขณะที่คะแนนที่สูงหมายถึงความโลภสุดขีด ซึ่งอาจบ่งชี้ว่าตลาดอยู่ในสภาวะ Overbought (มีแรงซื้อมากเกินไป) และต้องใช้ความระมัดระวัง

ดัชนีความกลัวและความโลภของคริปโตคำนวณอย่างไร

ดัชนีความกลัวและความโลภของคริปโตคำนวณโดยใช้ตัวประกอบถ่วงน้ำหนักหลายตัว แต่ละตัวจะมีส่วนต่อคะแนนโดยรวม ตัวประกอบเหล่านี้ได้แก่:

ความผันผวน (25%): วัดความผันผวนของตลาดปัจจุบัน แล้วเทียบกับค่าเฉลี่ยในช่วง 30 และ 90 วันที่ผ่านมา หากได้ค่าความผันผวนสูง ก็มักหมายถึงว่ามีความกลัวในระดับสูง

โมเมนตัม/ปริมาณของตลาด (25%): เทียบปริมาณการเทรดและโมเมนตัมของตลาดปัจจุบันกับค่าเฉลี่ยในอดีต หากได้ค่าปริมาณและโมเมนตัมที่สูง ก็มักบ่งบอกถึงความโลภ

โซเชียลมีเดีย (15%): วิเคราะห์ความเชื่อมั่นและอัตราการโต้ตอบบนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียต่างๆ เช่น Twitter หากได้ค่าการมีส่วนร่วมเชิงบวกที่เพิ่มขึ้น ก็มักบ่งบอกถึงความโลภ

แบบสำรวจ (15%): เก็บรวบรวมความคิดเห็นจากผู้เข้าร่วมตลาดผ่านแบบสำรวจเพื่อประเมินระดับความเชื่อมั่นโดยตรง

สัดส่วนการครองตลาดของ Bitcoin (10%): ดูสัดส่วนการครองตลาดของ Bitcoin เมื่อเทียบกับคริปโทเคอร์เรนซีอื่นๆ หากได้ค่าการครองตลาดที่เพิ่มขึ้น ก็มักบ่งบอกถึงความกลัว เนื่องจากนักลงทุนแห่กันไปเข้า Bitcoin ซึ่งมองกันว่ามีความปลอดภัย

Google Trends (10%): ติดตามความสนใจในการค้นหาคำที่เกี่ยวข้องกับ Bitcoin ยอดค้นที่สูงขึ้นอาจบ่งบอกได้ทั้งความกลัวหรือความโลภ ขึ้นอยู่กับบริบท

แต่ละตัวประกอบเหล่านี้จะถ่วงน้ำหนักและนำมารวมกันเพื่อให้ได้คะแนนสุดท้ายออกมาที่แสดงถึงความเชื่อมั่นของตลาดในปัจจุบัน วิธีการนี้ช่วยให้มั่นใจได้ว่าดัชนีจะถ่ายทอดอารมณ์ความรู้สึกของนักลงทุนในวงกว้างได้ ซึ่งเป็นตัวบ่งชี้ความเชื่อมั่นของตลาดที่เชื่อถือได้

จะใช้ดัชนีความกลัวและความโลภของคริปโตอย่างไรในการเทรด

ดัชนีความกลัวและความโลภของคริปโตช่วยให้นักเทรดวัดระดับความเชื่อมั่นของตลาดเพื่อประกอบการตัดสินใจเทรดอย่างมีข้อมูลได้ ในช่วงที่เกิดความกลัวสุดขีด (คะแนนดัชนี 0-24) ตลาดมีแนวโน้มที่จะอยู่ในสภาวะ Oversold (มีแรงขายมากเกินไป) ทำให้เกิดโอกาสในการซื้อ ในทางกลับกัน ความโลภสุดขีด (คะแนนดัชนี 75-100) บ่งบอกถึงสภาวะ Overbought (มีแรงซื้อมากเกินไป) และมีความเป็นไปได้ที่ตลาดจะปรับฐาน จึงเป็นจังหวะที่ดีในการขายหรือทำกำไร การใช้ดัชนีเพื่อจับจังหวะเข้าออกสามารถช่วยให้นักเทรดใช้ประโยชน์จากอารมณ์สุดขั้วเหล่านี้ได้

เช่น สมมติว่าดัชนีแสดงคะแนน 20 ซึ่งบ่งบอกถึงความกลัวสุดขีด และอินดิเคเตอร์ทางเทคนิค เช่น Relative Strength Index (RSI) ก็แสดงสภาวะ Oversold (มีแรงขายมากเกินไป) ด้วยเช่นกัน เมื่อดูรวมกันแล้วก็อาจชี้ให้เห็นว่าตลาดมีมูลค่าต่ำเกินไป (Undervalued) และอาจเป็นจังหวะที่เหมาะสมในการซื้อ ในทางกลับกัน หากดัชนีแสดงคะแนน 85 ซึ่งแสดงถึงความโลภสุดขีด และ Moving Average Convergence Divergence (MACD) ก็แสดงสภาวะ Overbought (มีแรงซื้อมากเกินไป) ก็อาจบ่งบอกได้ว่าตลาดมีมูลค่าสูงเกินไป (Overvalued) และอาจเป็นจังหวะที่ดีในการขาย การใช้ดัชนีความกลัวและความโลภของคริปโตร่วมกับเครื่องมือวิเคราะห์อื่นๆ นั้นจึงช่วยให้นักเทรดสามารถตัดสินใจได้อย่างมีข้อมูลมากขึ้น จับจังหวะเข้าออกในตลาดได้ดีขึ้น และจัดการความเสี่ยงได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

ดาวน์โหลดแอป
ดาวน์โหลดแอป