คำถามที่พบบ่อย KYB — การยืนยันองค์กร

1. การยืนยันองค์กรคืออะไร

การยืนยันองค์กรเป็นส่วนหนึ่งของมาตรการ Know Your Business (KYB) ของเรา การยืนยันองค์กรช่วยให้สถาบันการเงินยืนยันผู้ใช้สถาบันและความเสี่ยงด้านการปฏิบัติตามกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจของตนได้

2. วัตถุประสงค์ของ Know Your Business (KYB) คืออะไร

Know Your Business (KYB) มีบทบาทสำคัญในการสร้างสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยเพื่อปกป้องผู้ใช้จากการฉ้อโกง การฟอกเงิน และกิจกรรมที่ผิดกฎหมายภายในระบบนิเวศของเรา ไม่เพียงเป็นแนวทางปฏิบัติที่แนะนำเท่านั้น แต่ยังเป็นข้อกำหนดมาตรฐานที่หน่วยงานกำกับดูแลสนับสนุนและบังคับใช้อย่างจริงจังอีกด้วย โดยเป็นส่วนหนึ่งของมาตรการลดความเสี่ยงและการปฏิบัติตามกฎระเบียบ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการต่อสู้กับการฟอกเงินและเพื่อให้มั่นใจได้ถึงการประเมินความเสี่ยงที่มีประสิทธิผล การใช้กระบวนการ KYB ทำให้เราเพิ่มความสามารถของเราในการระบุและลดความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นได้ ซึ่งเอื้อต่อสภาพแวดล้อมทางธุรกิจที่ปลอดภัยและเชื่อถือได้มากขึ้น

3. ต้องใช้เอกสารอะไรบ้างในการยืนยันสถาบัน

รายการข้อกำหนดต่อไปนี้มีไว้เพื่อวัตถุประสงค์ในการอ้างอิงเท่านั้น โปรดเลือก “ประเภทองค์กร” ที่เกี่ยวข้องมากที่สุดในระหว่างการยืนยันธุรกิจเพื่อดูรายการข้อกำหนดที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจของคุณ

1. หนังสือรับรองการจดทะเบียน

2. รายงานการค้นหาบริษัทหรือข้อมูลบางส่วนจากธุรกิจหรือเอกสารเทียบเท่าที่ออกโดยราชการหรือสำนักงานตัวแทนจดทะเบียนซึ่งมีอายุไม่เกิน 12 เดือน

3. หนังสือรับรองตนที่ออกโดยสำนักงานตัวแทนจดทะเบียนซึ่งมีอายุไม่เกิน 12 เดือน

4. หนังสือบริคณห์สนธิและข้อบังคับของบริษัท หรือ เอกสารการก่อตั้งอื่นใดที่เทียบเท่า

5. ทะเบียนผู้ถือหุ้นล่าสุด

6. ทะเบียนกรรมการล่าสุด

7. แผนผังโครงสร้างความเป็นเจ้าของที่แสดงรายละเอียดแจกแจงความเป็นเจ้าของของบุคคลผู้รับประโยชน์คนกลางและบุคคลผู้รับประโยชน์ในทอดสุดท้ายทั้งหมดซึ่งลงนามและกำกับวันที่โดยกรรมการบริษัท (เทมเพลต)

8. หนังสือเดินทางหรือเอกสารระบุตัวตนของบุคคลผู้รับประโยชน์ในทอดสุดท้าย ผู้ที่มีอำนาจควบคุมในทอดสุดท้าย กรรมการ และผู้ที่ได้รับมอบอำนาจทั้งหมด

9. หลักฐานที่อยู่ของที่พักอาศัยของบุคคลผู้รับประโยชน์ในทอดสุดท้ายและผู้ที่มีอำนาจควบคุมในทอดสุดท้ายทั้งหมดซึ่งมีอายุไม่เกิน 3 เดือน

10. หลักฐานที่อยู่ทางธุรกิจซึ่งมีอายุไม่เกิน 3 เดือน

4. จะดูได้อย่างไรว่าจะเลือกบทบาทใดในส่วน “บุคคลที่เกี่ยวข้อง”

ต่อไปนี้เป็นคำจำกัดความโดยย่อของแต่ละบทบาทในส่วน “บุคคลที่เกี่ยวข้อง” พร้อมด้วยตัวอย่างบางส่วน:

1. กรรมการ คือ บุคคลที่ดูแลการดำเนินงานของหน่วยงานและมีความสามารถในการลงนามเอกสารในนามของหน่วยงานได้ ในกรณีส่วนใหญ่ ความเป็นกรรมการสามารถยืนยันได้ผ่านรายงานการค้นหาบริษัท / ข้อมูลบางส่วนจากธุรกิจ หรือเอกสารเทียบเท่า

2. บุคคลผู้รับประโยชน์ในทอดสุดท้าย (UBO) คือ บุคคลที่ถือหุ้นหรือสิทธิในการออกเสียงของหน่วยงานตั้งแต่ 25% ขึ้นไป โดยอาจไม่ได้บริหารจัดการธุรกิจโดยตรง แต่ท้ายที่สุดแล้วจะเป็นผู้ที่ได้รับประโยชน์จากสินทรัพย์ รายได้ หรือผลกำไรของสถาบัน

3. ผู้ที่ได้รับมอบอำนาจ คือ บุคคลที่ได้รับมอบอำนาจให้ปฏิบัติหน้าที่ทางธุรกิจที่กำหนดและลงนามในเอกสารในนามของหน่วยงาน ในการตรวจสอบยืนยันธุรกิจของ Bitget ผู้ที่ได้รับมอบอำนาจหมายถึงบุคคลที่ได้รับมอบอำนาจให้ดำเนินการบัญชีธุรกิจ Bitget ในนามของหน่วยงานที่เริ่มต้นใช้งาน แม้ว่าปกติแล้วกรรมการจะเป็นตัวแทนโดยปริยาย แต่สามารถมอบอำนาจนี้ให้กับผู้ที่ได้รับมอบอำนาจได้เช่นกันผ่านทางมติของคณะกรรมการหรือหนังสือมอบอำนาจ

4. ผู้ที่มีอำนาจควบคุมในทอดสุดท้าย คือ บุคคลที่มีอำนาจควบคุมเหนือหน่วยงานตั้งแต่ 25% ขึ้นไป ในกรณีส่วนใหญ่ ข้อแตกต่างหลักระหว่าง UBO กับผู้ที่มีอำนาจควบคุมในทอดสุดท้ายคือ UBO มีความเป็นเจ้าของและผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจ ในขณะที่ผู้ที่มีอำนาจควบคุมในทอดสุดท้ายมีอำนาจควบคุมทั้งในทางกฎหมายและทางเศรษฐกิจ

ตัวอย่างที่ 1:

§ หากคุณมีหลายบทบาทในเวลาเดียวกัน คุณจะต้องเลือกบทบาทที่เกี่ยวข้องทั้งหมดในส่วนบุคคลที่เกี่ยวข้อง

ตัวอย่างที่ 2:

§ หากบุคคล A คือ UBO และบุคคล B เป็นกรรมการและผู้ที่ได้รับมอบอำนาจ ควรเลือกบทบาท UBO ให้กับบุคคล A และควรเลือกบทบาทของกรรมการและผู้ที่ได้รับมอบอำนาจให้กับบุคคล B ในส่วน “บุคคลที่เกี่ยวข้อง”

โปรดทราบว่าตัวอย่างมีไว้เพื่อวัตถุประสงค์ในการอ้างอิงเท่านั้น การเลือกบทบาทจริงอาจแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับความซับซ้อนของโครงสร้างธุรกิจของคุณหรือประเภทหน่วยงานของคุณ

5. ฉันควรเลือกบทบาทใดหากฉันมีบทบาทในหน่วยงานมากกว่า 1 บทบาท

ในส่วน “บุคคลที่เกี่ยวข้อง” สามารถเลือกได้หลายบทบาทสำหรับแต่ละบุคคล โปรดดูคำแนะนำโดยละเอียดที่ขั้นตอนที่ 7 ในคู่มือการยืนยัน KYB.

6. ฉันสามารถระบุให้พนักงานหรือตัวแทนเป็นผู้ที่ได้รับมอบอำนาจได้หรือไม่

ต้องมีมติของคณะกรรมการหรือหนังสือมอบอำนาจที่ลงนามอย่างถูกต้องและลงวันที่โดยกรรมการ หากพนักงานหรือตัวแทนได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้ที่ได้รับมอบอำนาจที่จะดูแลบัญชีหรือดำเนินการในนามของหน่วยงานของคุณ

7. ต้องใช้เอกสารอะไรบ้างหากมีการเปลี่ยนชื่อหน่วยงาน

จำเป็นต้องมีใบรับรองการเปลี่ยนชื่อเพื่อตรวจสอบยืนยันการเปลี่ยนชื่อ เอกสารควรแสดงชื่อเดิม ชื่อใหม่ และวันที่การเปลี่ยนแปลงดังกล่าวมีผลบังคับใช้

8. เอกสารใดบ้างที่สามารถใช้เป็นหลักฐานแสดงที่อยู่ได้

ด้านล่างนี้คือรายการหลักฐานแสดงที่อยู่ที่ยอมรับ เอกสารควรมีอายุไม่เกิน 3 เดือน เว้นแต่จะระบุไว้เป็นอย่างอื่น และจ่าหน้าถึงบุคคลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

1. ใบแจ้งหนี้ค่าสาธารณูปโภค (ค่าไฟ ค่าน้ำ ค่าบริการอินเทอร์เน็ต ค่าบริการโทรศัพท์ ฯลฯ)

2. รายการเคลื่อนไหวบัญชีธนาคาร

3. หลักฐานที่อยู่อาศัยที่ออกโดยหน่วยงานของรัฐ (เช่น ข้อมูลบางส่วนจากทางอิเล็กทรอนิกส์ที่ดึงมาจากระบบข้อมูลประชากร)

4. จดหมายที่ออกโดยบริษัทประกันภัย

5. การคืนภาษี/ใบกำกับภาษีสภา/ใบกำกับภาษีล่าสุด

ที่อยู่ไม่สามารถเป็นตู้ไปรษณีย์ได้ เว้นแต่จะเป็นที่อยู่เพียงรูปแบบเดียวที่ใช้ได้ในเขตพื้นที่ของคุณ

9. ฉันสามารถใช้ที่อยู่จดทะเบียนของฉันเป็นที่อยู่ทางธุรกิจได้หรือไม่ จะเป็นอย่างไรหากฉันดำเนินธุรกิจแบบระยะไกลจากบ้าน

ที่อยู่ทางธุรกิจ (หรือที่อยู่สำนักงาน) จำเป็นต้องระบุการมีตัวตนของคุณได้ นี่คือสถานการณ์ตัวอย่างบางส่วนเพื่อการอ้างอิง

สถานการณ์ที่ 1:

§ หน่วยงานเช่าหรือเป็นเจ้าของสำนักงานซึ่งมีที่อยู่ที่ใช้ในการจดทะเบียนบริษัทและเป็นที่อยู่ซึ่งธุรกิจดำเนินการอยู่ด้วย ในกรณีนี้ ที่อยู่ทางธุรกิจจะเป็นที่อยู่เดียวกันกับที่อยู่ที่จดทะเบียน

สถานการณ์ที่ 2:

§ ที่อยู่ที่จดทะเบียนเป็นที่อยู่เดียวกันกับที่อยู่ของตัวแทนเลขานุการบริษัทหรือตัวแทนที่จดทะเบียนของคุณ อย่างไรก็ตาม เนื่องจากที่อยู่นี้ใช้เพื่อวัตถุประสงค์ในการจดทะเบียนโดยตัวแทนของคุณเท่านั้น คุณจึงต้องระบุที่อยู่ทางธุรกิจจริงของคุณเมื่อสมัคร คุณต้องส่งหลักฐานที่เกี่ยวข้องที่แสดงที่อยู่ซึ่งมีอายุไม่เกิน 3 เดือน

สถานการณ์ที่ 3:

§ ที่อยู่ที่จดทะเบียนเป็นที่อยู่เดียวกันกับที่อยู่ของตัวแทนเลขานุการบริษัทของคุณซึ่งมีบริการสำนักงานอัจฉริยะ (Smart Office เช่น WeWork) ให้บริการ คุณสามารถใช้ที่อยู่นี้เป็นที่อยู่ทางธุรกิจของคุณได้ แต่คุณต้องแสดงหลักฐานที่อยู่ที่แสดงความสัมพันธ์ระหว่างธุรกิจของคุณกับตัวแทนเลขานุการบริษัท (เช่น สัญญาเช่าสำนักงาน/ใบแจ้งหนี้ค่าสาธารณูปโภคที่ถูกต้องซึ่งออกโดยตัวแทนเลขานุการบริษัทให้คุณ)

สถานการณ์ที่ 4:

§ หากธุรกิจดำเนินการจากที่บ้าน คุณจะต้องกรอกที่อยู่ของที่พักอาศัยของคุณเป็นที่อยู่ทางธุรกิจพร้อมหลักฐานที่เกี่ยวข้องที่แสดงที่อยู่ซึ่งมีอายุไม่เกิน 3 เดือน

10. เหตุใดฉันจึงไม่พบประเทศของฉันในรายการประเทศ

Bitget ไม่ได้ให้บริการแก่ผู้ใช้จากประเทศ/ภูมิภาคต่อไปนี้: แคนาดา (อัลเบอร์ตา), ไครเมีย, คิวบา, ฮ่องกง, อิหร่าน, เกาหลีเหนือ, สิงคโปร์, ซูดาน, ซีเรีย, สหรัฐอเมริกา (รวมถึงดินแดนของสหรัฐฯ และเกาะเล็กรอบนอกของสหรัฐฯ**), อิรัก, ลิเบีย, เยเมน, อัฟกานิสถาน, สาธารณรัฐแอฟริกากลาง, สาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโก, กินี-บิสเซา, เฮติ, เลบานอน, โซมาเลีย, เนเธอร์แลนด์ และซูดานใต้

*เปอร์โตริโก กวม สหรัฐอเมริกา หมู่เกาะเวอร์จิน อเมริกันซามัว และหมู่เกาะนอร์เทิร์นมาเรียนา

**เกาะเบเกอร์, เกาะฮาวแลนด์, เกาะจาร์วิส, จอห์นสตันอะทอลล์, คิงแมนรีฟ, หมู่เกาะมิดเวย์, เกาะนาวาสซา, พัลไมราอะทอลล์ และเกาะเวก

11. ฉันจะดูสาเหตุที่การยืนยันสถาบัน (KYB) ของฉันไม่สำเร็จได้ที่ไหน

หากใบสมัครของคุณถูกปฏิเสธ เราจะส่งอีเมลระบุสาเหตุของการปฏิเสธไปยังที่ลงอีเมลที่ลงทะเบียนของคุณ คุณสามารถตรวจสอบสาเหตุในการปฏิเสธโดยไปที่หน้าการยืนยันสถาบันได้อีกด้วยเช่นกัน

12. ฉันควรติดต่อใครหากมีปัญหาหรือคำถามใดๆ

โปรดติดต่อเราที่ ([email protected]) แล้วเราจะติดต่อกลับหาคุณโดยเร็วที่สุด หรือคุณสามารถติดต่อฝ่ายบริการลูกค้าทาง Live Chat ของเราได้ตลอด 24 ชั่วโมงทุกวัน