Wallet สำหรับคริปโต: คู่มือสำหรับมือใหม่
บทความนี้จะพาไปเรียนรู้ว่า Wallet สำหรับคริปโตคืออะไร มีวิธีการทำงานอย่างไร และจะเลือกประเภท Wallet ที่เหมาะกับคุณได้อย่างไร
Wallet สำหรับคริปโทเคอร์เรนซีคืออะไร
น่าจะเดาจากชื่อออกกันอยู่แล้วว่า Wallet สำหรับคริปโทเคอร์เรนซีนั้นเป็นแอปพลิเคชันที่สามารถใช้เพื่อรับและส่งคริปโทเคอร์เรนซีของคุณได้ แต่ที่จริงมีขีดความสามารถมากกว่านั้น เพราะ Wallet สำหรับคริปโตเป็นเสมือนหนังสือเดินทางและตรารับรองของคุณ ทำให้รับหรือส่งธุรกรรมได้ รวมถึงเริ่มการดำเนินการอื่นๆ บนบล็อกเชนได้
Wallet สำหรับคริปโทเคอร์เรนซีทำงานอย่างไร
ที่จริงแล้วคริปโทเคอร์เรนซีของคุณไม่ได้ “จัดเก็บ” ไว้ใน Wallet ของคุณ แต่จะจัดเก็บไว้ในฐานข้อมูลแบบกระจายศูนย์ที่เรียกว่าบล็อกเชน ซึ่ง Wallet สำหรับคริปโทเคอร์เรนซีนี้เองทำหน้าที่เป็นอินเทอร์เฟซติดต่อกับบล็อกเชน โดยในการค้นหาหรือส่งคริปโทเคอร์เรนซีหรือ NFT นั้น จำเป็นต้องใช้ Public Key ซึ่งก็คือ Wallet Address ส่วนในการเข้าถึงบัญชีและทุกสิ่งทุกอย่างในบัญชีได้อย่างสมบูรณ์นั้น จำเป็นต้องมี Private Key ซึ่งเป็นชุดตัวเลขผสมตัวอักษรขนาดยาวที่ดูสุ่มโดยสมบูรณ์ นอกจากนี้ยังมีชุดคำที่เรียกว่า Seed Phrase อีกด้วย ซึ่งสร้างขึ้นเป็นตัวแทนสำหรับ Private Key ของคุณ เพื่อให้ดำเนินการต่างๆ ได้ง่ายขึ้น
คนอื่นสามารถส่งธุรกรรมมายัง Address ของคุณได้ แต่หากคนอื่นทราบ Private Key ของคุณ ก็จะสามารถปลดล็อกตู้เซฟนี้และฉกทุกอย่างในนั้นไปได้ ส่วนในอีกด้านหนึ่งก็คือ หากทำ Seed Phrase หรือ Private Key หาย คุณก็จะไม่สามารถเข้าถึงคริปโตของคุณได้เช่นกัน อันที่จริง จากการวิเคราะห์ พบว่ามีถึง 6 ล้าน Bitcoin หรือเกือบ 1 ใน 3 ของอุปทานหมุนเวียนทั้งหมดที่สูญหายไปอย่างไม่สามารถเรียกกลับคืนได้
อย่างไรก็ตาม สิ่งต่างๆ กำลังจะเปลี่ยนไป เนื่องจากมีข้อเสนอ Account Abstraction ของ Ethereum (EIP-4337) ซึ่งจะทำให้ Wallet ของคุณดำเนินงานอยู่บน Smart Contract เป็นหลัก วิธีนี้ช่วยให้ควบคุมการอนุญาตได้ยืดหยุ่นมากขึ้นและกู้คืนบัญชีได้ง่ายขึ้น
เปรียบเทียบ Wallet สำหรับคริปโตแบบต่างๆ
เช่นเดียวกับแทบทุกสิ่ง Wallet สำหรับคริปโตก็มีหลากหลายรูปแบบ ซึ่งจัดกลุ่มได้เป็น Hot กับ Cold Wallet โดย Hot จะเป็น Wallet ที่เข้าถึงอินเทอร์เน็ตได้ ส่วน Cold จะเป็น Wallet ที่ไม่มีการเข้าถึงอินเทอร์เน็ต หรือจัดกลุ่มอีกอย่างได้เป็น Custodial กับ Non-Custodial Wallet ขึ้นอยู่กับว่าบุคคลที่สามเป็นผู้จัดเก็บ Key ของคุณไว้หรือไม่ นอกจากนี้ยังแบ่งได้อีก 3 หมวดหมู่ย่อยตามลักษณะของอุปกรณ์:
Paper Wallet
ประเภทนี้เรียกได้ว่าเป็น Key กระดาษมากกว่าเป็น Wallet เพราะเป็นเพียงตัว Seed Phrase (หรือ Private Key แล้วแต่จะเรียก) ที่เขียนลงบนอุปกรณ์ที่จับต้องได้ เช่น แผ่นกระดาษ การที่ไม่น่าจะมีกระดาษแผ่นใดในโลกที่มาพร้อมการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต ดังนั้นคริปโตของคุณจึงแทบไม่มีใครแตะต้องได้ หากคุณปกป้องกระดาษแผ่นนี้ไว้เป็นอย่างดี แต่ก็แน่นอนว่ามีข้อเสียที่ชัดเจนอยู่ เพราะต้องผ่านเส้นทางที่ยากลำบากทุกครั้งที่ต้องการจะทำอะไรกับ Wallet เพื่อให้ออนไลน์ได้
ความปลอดภัย: ★★★★★
ความสะดวกสบาย: ★
Hardware Wallet
Wallet ประเภทนี้เป็นแฟลชไดรฟ์ที่มี Private Key ของคุณอยู่ข้างใน เมื่อใดก็ตามที่ต้องการทำธุรกรรม ก็เพียงเสียบ Hardware Wallet เข้ากับคอมพิวเตอร์ แล้วเซ็น ซึ่งเช่นเดียวกับกระดาษ แฟลชไดรฟ์ส่วนใหญ่ไม่สามารถเชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ตด้วยตัวเองได้ Hardware Wallet จึงมีความปลอดภัยเกือบเท่ากับ Paper Wallet แต่สะดวกสบายกว่าหลายขั้น
ความปลอดภัย: ★★★★☆
ความสะดวกสบาย: ★★★
Software Wallet
แม้การเชื่อมต่อ Wallet ของคุณกับอินเทอร์เน็ตไว้ตลอดเวลาจะช่วยให้มีความสะดวกสบายมากขึ้น แต่ก็ต้องแลกมากับการเสียความปลอดภัยไปพอสมควร Software Wallet นำเสนอทางเลือกเช่นนี้ให้บนเดสก์ท็อปและอุปกรณ์มือถือ มีทั้งอยู่ในรูปของโปรแกรม, Extension ของเบราว์เซอร์ หรือเป็นแอป Wallet ประเภทนี้มีอินเทอร์เฟซที่เป็นมิตรและให้ประสบการณ์ที่ราบรื่นไม่มีสะดุดในทุกการโต้ตอบของคุณ อย่างไรก็ตาม สิ่งเหล่านี้ก็มีราคาที่ต้องจ่าย เนื่องจากอุปกรณ์อาจถูกแฮ็กได้ คนที่ใช้อาจถูกสแกมจากมิจฉาชีพได้ และบุคคลที่สามที่คนที่ใช้ไว้วางใจให้เก็บ Private Key ของตนไว้อาจถูกเจาะข้อมูลหรือกลายเป็นผู้ประสงค์ร้ายเสียเองก็ได้เช่นกัน
ความปลอดภัย: ★★★
ความสะดวกสบาย: ★★★★★
คุณควรเลือก Wallet สำหรับคริปโตแบบใด
น่าเสียดายที่ไม่มีคำตอบที่ตายตัวสำหรับคำถามนี้ เพราะทั้งหมดขึ้นอยู่กับความต้องการและความชื่นชอบของคุณ อย่างไรก็ตาม เรามีคำแนะนำบางประการให้
ความปลอดภัยต้องมาก่อน
สำหรับผู้ที่ให้ความสำคัญกับความปลอดภัยเหนือสิ่งอื่นใด เราขอแนะนำให้ใช้ Hardware Wallet อุปกรณ์ประเภทนี้มีความปลอดภัยสูง แต่ก็ยังคงติดตามข้อมูลและใช้โต้ตอบได้ง่าย
เดสก์ท็อปที่คุ้นเคย
หากคุ้นเคยกับการเข้าเว็บและลงทุนบนเดสก์ท็อปของคุณ MetaMask ซึ่งเป็น Non-Custodial Wallet ในรูปแบบ Extension ของเบราว์เซอร์ที่คนรักคริปโตหลายล้านคนทั่วโลกเลือกใช้ ก็อาจเป็นตัวเลือกแรกของคุณ โดยเป็น Wallet ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดบนทุกแพลตฟอร์มที่ใช้ Ethereum
เข้าถึงคริปโตได้ทุกที่
สมาร์ทโฟนได้กลายมาเป็นส่วนสำคัญในชีวิตของเราไปแล้ว ซึ่งแน่นอนว่ารวมไปถึงคริปโตด้วย Wallet บนมือถือมีอยู่หลายร้อยหรืออาจถึงหลายพัน แต่ BitKeep เป็น Wallet ที่โดดเด่นออกมา โดยเป็นโซลูชันแบบครบวงจรสำหรับการจัดการสินทรัพย์, การ Bridge, การเทรด และการสำรวจมากกว่า 90 บล็อกเชน
เทรดและจัดเก็บ
คุณสามารถจัดเก็บคริปโตของคุณไว้บนแพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนแบบรวมศูนย์ (Centralized Exchange) ที่เชื่อถือได้ได้อีกด้วยเช่นกัน ซึ่งมาพร้อมกองทุน Protection Fund ที่รับมือกับภัยคุกคามด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์โดยเฉพาะ
ขั้นตอนที่ 1: ลงทะเบียนบัญชี Bitget ของคุณ
ขั้นตอนที่ 2: ตั้งค่าบัญชีของคุณ ขั้นตอนนี้จะเป็นการผูกอีเมล มือถือ และ Google Authenticator รวมถึงตั้งรหัสผ่านสินทรัพย์ที่จะต้องใช้เมื่อต้องการถอนสินทรัพย์
ขั้นตอนที่ 3: ซื้อคริปโต ผ่านบัตรเครดิต/เดบิต การฝากผ่านธนาคาร โซลูชันการชำระเงินผ่านบุคคลที่สาม หรือการเทรด P2P
เท่านี้ก็พร้อมแล้ว! ตอนนี้ก็เริ่มเพลิดเพลินกับประสบการณ์การเทรดของเราที่ใช้งานง่ายได้เลย ซึ่งสนับสนุนโดยฝ่ายบริการลูกค้าตลอด 24 ชั่วโมงทุกวันและได้รับการคุ้มครองด้วยกองทุนมูลค่า 300 ล้านดอลลาร์สหรัฐของเรา
- การตลาดคอนเทนต์ของพันธมิตร Bitget: ทุกสิ่งที่คุณต้องรู้2024-11-25 | 10m
- คู่มือ KYC บน Bitget ฉบับรวบรัดและรับประกันความสำเร็จ2024-11-12 | 10m