ข่าวสาร GMX (GMX)

GMX คืออะไร

GMX เป็นแพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนแบบกระจายศูนย์ (Decentralized Exchange) ซึ่งมีความเชี่ยวชาญในด้านการเทรดคริปโทเคอร์เรนซีแบบ Spot และ Perpetual แพลตฟอร์มดังกล่าวเปิดตัวในเดือนกันยายน 2021 ในฐานะโปรโตคอล Gambit รุ่นแรก โดย GMX ได้รับความสนใจอย่างรวดเร็วด้วยฟีเจอร์ที่เป็นนวัตกรรม เช่น ค่าธรรมเนียมการ Swap ที่ต่ำ, การมีเลเวอเรจสูงสุดถึง 50X และการเทรดแบบไม่มี Price Impact ทั้งนี้ แพลตฟอร์มดังกล่าวดำเนินการอยู่บนโปรโตคอล Arbitrum Layer-2 และบล็อกเชน Avalanche เป็นหลัก และเสนอประสบการณ์การเทรดแบบราบรื่นไม่มีสะดุดด้วยค่าใช้จ่ายในการทำธุรกรรมที่ต่ำกว่า

แพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนเจ้านี้มีความโดดเด่นด้วยโมเดลสภาพคล่องแบบหลากหลายสินทรัพย์ (Multi-Asset Liquidity) ที่เป็นเอกลักษณ์ ซึ่งเป็นการปรับเปลี่ยนมาจากชุดการตั้งค่าแบบ Automated Market Maker ดั้งเดิม อนึ่ง GMX ใช้ Chainlink Oracle เพื่อรวบรวมข้อมูลราคาแบบไดนามิกจากแพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนเจ้าต่างๆ ซึ่งจะเป็นการประกันการได้รับข้อมูลที่ถูกต้องและทันเวลานั่นเอง

แหล่งข้อมูล

เอกสารทางการ: https://docs.gmx.io/docs/intro/

เว็บไซต์ทางการ:https://gmx.io

GMX ทำงานอย่างไร

หัวใจหลักของฟังก์ชันการใช้งานของ GMX คือ Liquidity Pool ที่ดำเนินการโดยชุมชนแบบ “เป็นสหภาพ (Unionized)” เรียกกันว่า GLP Pool ซึ่ง Pool ดังกล่าวให้บริการทั้งการเทรด Spot และการเทรด Perpetual Contract โดยผู้ใช้สามารถใส่สินทรัพย์อย่างเดียวลงไปใน GLP Pool ได้ ซึ่งตัว Automated Market Maker (AMM) และอัลกอริทึมการเทรดเลเวอเรจก็จะนำไปใช้สำหรับการเทรด Spot และสำหรับคำร้องขอกู้ยืมสินทรัพย์ตามลำดับ นักเทรดจะสามารถกู้ยืมสินทรัพย์ได้ถึง 30 เท่าของมูลค่าของหลักประกันของตนจาก GLP Pool ทำให้สามารถทำรายการเทรดด้วยเลเวอเรจได้ในอัตราสูง

ทั้งนี้ GMX จะเรียกเก็บค่าธรรมเนียมการเทรด 0.1 ของขนาด Position ในการเปิดรายการเทรด และ “ค่าธรรมเนียมการกู้ยืม” ที่จะแตกต่างกันไปตามการใช้งานสินทรัพย์ ซึ่งโครงสร้างค่าธรรมเนียมดังกล่าวของแพลตฟอร์มออกแบบมาเพื่อให้เกิดประโยชน์แก่ทั้งผู้ถือโทเค็น GMX และ GLP โดยค่าธรรมเนียม 30% จะส่งไปให้แก่ผู้ที่ Stake GMX และ 70% ไปยังผู้ถือ GLP

โทเค็น GMX (GMX) คืออะไร

โทเค็น GMX มีการนำไปใช้งานหลากหลายในระบบนิเวศ GMX โดยหลักแล้ว โทเค็นดังกล่าวใช้เพื่อการกำกับดูแล ซึ่งทำให้ผู้ถือโทเค็นสามารถโหวตในเรื่องเกี่ยวกับข้อเสนอต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินการของแพลตฟอร์มได้ ซึ่งโทเค็นดังกล่าวสามารถนำไป Stake เพื่อรับรางวัลตอบแทนได้ 3 ประเภทด้วย ได้แก่ Escrowed GMX (esGMX), Multiplier Point, และรางวัลตอบแทนมาตรฐานเป็น ETH หรือ AVAX โดยขึ้นกับเครือข่ายที่ใช้งาน

ปัจจัยที่ส่งผลต่อราคาโทเค็น GMX (GMX) มีอะไรบ้าง

ราคาของโทเค็น GMX ได้รับอิทธิพลจากปัจจัยหลายประการด้วยกัน ซึ่งรวมถึงความเชื่อมั่นของตลาด ปริมาณการเทรด และผลการดำเนินการโดยรวมของตลาดคริปโต ทั้งนี้ ประโยชน์ใช้สอยของโทเค็นดังกล่าวในระบบนิเวศ GMX เช่น ในการกำกับดูแลและการรับรางวัลจากการ Stake ก็มีบทบาทในการประเมินมูลค่าโทเค็นเช่นกัน นอกจากนี้ ฟีเจอร์และโมเดลสภาพคล่องที่เป็นนวัตกรรมของแพลตฟอร์มก็ดึงความสนใจจากนักลงทุนได้ และส่งผลต่อการเคลื่อนไหวของราคาด้วย อนึ่ง โทเค็น GMX ได้แสดงให้เห็นว่ามีความทนทานแม้แต่ในสภาวะตลาดถดถอย ซึ่งทำให้โทเค็นดังกล่าวดูมีหวังในสายตานักเทรดและนักลงทุนทีเดียว

ผลกระทบของ GMX ต่อวงการการเงิน

GMX เข้ามาสร้างแรงกระเพื่อมในโลกการเงินโดยการเสนอแพลตฟอร์มแบบกระจายศูนย์สำหรับการเทรด Spot และ Perpetual ที่มีตัวเลือกเลเวอเรจในอัตราสูง โดยการมีโมเดลสภาพคล่องที่เป็นเอกลักษณ์และแนวทางที่ขับเคลื่อนโดยชุมชนทำให้โปรเจกต์ดังกล่าวมีความโดดเด่นจากระบบการเงินแบบดั้งเดิม หรือแม้แต่แพลตฟอร์ม DeFi เจ้าอื่นก็ตาม การที่ GMX ดำเนินการอยู่บนโซลูชัน Layer-2 อย่าง Arbitrum และ Avalanche ก็ทำให้โปรเจกต์ดังกล่าวเข้ามาจัดการปัญหาบางส่วนในด้านความสามารถในการขยายการรองรับและค่าใช้จ่ายที่เป็นปัญหาของโปรเจกต์ DeFi ต่างๆ บน Ethereum ด้วย

ทั้งนี้ GMX เปิดโอกาสในการรับ Passive Income ผ่านการ Stake และการให้บริการสภาพคล่อง ซึ่งเป็นสิ่งน่าดึงดูดสำหรับนักลงทุนในระยะยาว และโมเดลการกำกับดูแลของโปรเจกต์ดังกล่าวก็ประกันว่าชุมชนจะมีสิทธิ์มีเสียงในการกำหนดอนาคตของแพลตฟอร์มได้ ซึ่งก็เป็นไปตามปรัชญาการกระจายศูนย์นั่นเอง

บทสรุป

โดยสรุปแล้ว GMX เป็นผู้เล่นที่สำคัญในวงการ DeFi ที่นำเสนอฟีเจอร์ที่เป็นนวัตกรรมอย่างการมีค่าธรรมเนียมต่ำและการมีเลเวอเรจในอัตราสูง โปรเจกต์ดังกล่าวดำเนินการโดยใช้เทคโนโลยีบล็อกเชนขั้นสูง ซึ่งเป็นการมอบประสบการณ์การเทรดที่คุ้มค่าใช้จ่ายและสามารถขยายการรองรับได้แก่ผู้ใช้ ทั้งนี้ ด้วยโมเดลสภาพคล่องที่เป็นเอกลักษณ์และการกำกับดูแลที่ขับเคลื่อนโดยชุมชน GMX จัดว่ามีความโดดเด่นเป็นพลังที่จะเข้ามาสร้างความเปลี่ยนแปลงให้แก่ทั้งตลาดการเงินแบบดั้งเดิมและตลาดการเงินแบบกระจายศูนย์ได้ทีเดียว